บทนำ: ความท้าทายในการวินิจฉัยโรคตับอ่อนอักเสบในแมว
โรคตับอ่อนอักเสบในแมวเป็นภาวะที่มีอาการไม่จำเพาะเจาะจง โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นแบบเล็กน้อยหรือแบบเรื้อรัง ดังนั้นการวินิจฉัยตับอ่อนอักเสบในแมวจึงมีความท้าทายมากในทางคลินิก
จากการศึกษาที่ผ่านมาของ HEV et al., 2007 พบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับภาวะตับอ่อนอักเสบในแมว ดังนี้
- การศึกษาในแมว 115 ตัวที่ได้รับการชันสูตรซากภายหลังการเสียชีวิต (necropsy) พบว่าแมว 67% มีการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิสภาพของตับอ่อนจากการอักเสบ โดยที่ 45% ของแมวที่พบการเปลี่ยนนี้ไม่พบอาการภายนอกที่ผิดปกติก่อนเสียชีวิต (no clinical sign)
- ในจำนวน 60% ของแมวที่พบพยาธิสภาพของตับอ่อน พบว่าเป็นตับอ่อนอักเสบชนิดเรื้อรัง โดยพบความสัมพันธ์กับอายุที่เพิ่มมากขึ้น
ปัจจัยที่ทำให้การวินิจฉัยตับอ่อนอักเสบยาก:
- อาการที่ไม่จำเพาะ
- มักมีโรคร่วม (comorbid disease)
- ข้อจำกัดของการตรวจแต่ละแบบ (sensitivity/specificity)
การตรวจทางพยาธิวิทยา (histopath) ยังคงเป็น “Gold standard” ในการตรวจวินิจฉัยภาวะตับอ่อนอักเสบทั้งในแมวและในสุนัข แต่ข้อจำกัดในเรื่องของความเสี่ยง ค่าใช้จ่าย รวมถึงข้อจำกัดของการเก็บตัวอย่างที่อาจพลาดบริเวณรอยโรคจากการกระจายของพยาธิสภาพที่ไม่สม่ำเสมอในตับอ่อน
หลักการวินิจฉัยโรคตับอ่อนอักเสบในแมว
พิจารณาจากองค์ประกอบหลัก:
- ประวัติการเจ็บป่วย
- อาการทางคลินิก
- การตรวจ Feline Pancreatic Lipase (fPL)
- การทำอัลตราซาวด์ช่องท้อง
- ผลตรวจทางพยาธิวิทยา (Histopathology)
อาการทางคลินิกของแมวตับอ่อนอักเสบที่พบบ่อย (Forman et al., 2021)
อาการ | อัตราที่พบ |
---|---|
อ่อนแรง (Lethargy) | 51–100% |
ไม่กินอาหาร (Anorexia) | 62–97% |
อาเจียน (Vomiting) | 35–52% |
น้ำหนักลด (Weight loss) | 30–47% |
ท้องเสีย (Diarrhea) | 11–38% |
หายใจลำบาก (Dyspnea) | 6–20% |
การประเมินเอนไซม์ไลเปส (Lipase)
เอนไซม์ไลเปส (𝗟𝗶𝗽𝗮𝘀𝗲)
การตรวจวัดเอนไซม์ lipase และ amylase ไม่มีความจำเพาะต่อโรคตับอ่อนอักเสบในแมวเพราะสามารถเพิ่มขึ้นจากหลายโรค เช่น โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ การติดเชื้อ มะเร็งบางชนิดหรือโรคทางเดินอาหารอื่นๆ ซึ่งทำให้ระดับ lipase ในเลือดสูงขึ้นแม้จะไม่พบตับอ่อนอักเสบก็ตาม (extrapancreatic lipases)
𝗙𝗲𝗹𝗶𝗻𝗲 𝗣𝗮𝗻𝗰𝗿𝗲𝗮𝘁𝗶𝗰 𝗟𝗶𝗽𝗮𝘀𝗲 (𝗳𝗣𝗟)
การตรวจวัดระดับ Feline Pancreatic Lipase (fPL) เป็นวิธีจำเพาะสำหรับวินิจฉัยภาวะตับอ่อนอักเสบในแมว โดยตรวจหาระดับของเอนไซม์ lipase ที่ผลิตจากตับอ่อนโดยเฉพาะ ปัจจุบันมีชุดตรวจหลายแบบที่ใช้งานในห้องปฏิบัติการและชุดตรวจที่สามารถตรวจที่คลินิกได้เลย (point-of-care test)
การตรวจ fPL: เครื่องมือสำคัญในการวินิจฉัย
1. IDEXX SNAP fPL
- Point-of-care test, semi-quantitative
- เป็น screening test ใช้ตรวจเบื้องต้นที่คลินิก
- จากข้อมูลของบริษัท SNAP fPL ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อ rule out ตับอ่อนอักเสบ
- อาจมีผล false negative/false positive โดยเฉพาะในช่วง early หรือ mild pancreatitis
- SNAP fPL อาจไม่ไวพอต่อการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยของ fPL
การศึกษานึงพบว่าผลตรวจ SNAP fPL มีความสอดคล้องกับ Spec fPL อยู่ที่ 89.2% (SchnauB et al., 2018)
2. IDEXX Spec fPL
- เป็นการตรวจแบบ quantitative ,ได้ผลลัพธ์เป็นตัวเลข
- ต้องส่งตรวจที่ต่างประเทศ (Texus A&M University)
- ชุดตรวจ Spec fPL ของ Idexx ใช้ monoclonal antibodies ไม่เกิดการข้ามปฏิกิริยากับ lipase อื่น
- เป็น species-specific และ anti-pancreatic lipase–specific antibodies
- ไม่ถูกรบกวนจาก extrapancreatic lipases เช่น hepatic lipase , lipemia, hemolysis
- ใช้การตรวจแบบ sandwich ELISA
การศึกษาล่าสุดเรื่องความไวและความจำเพาะของชุดตรวจ Spec fPL IDEXX (Forman et al., 2024) พบว่าชุดตรวจ Spec fPL มี sensitivity 79.4% และ specificity 79.7% (ทดสอบในแมว 141 ตัวที่แสดงอาการทางคลินิกที่สอดคล้องกับโรคตับอ่อนอักเสบ)
การศึกษาของ Wu et al., 2023 พบว่าถ้าปรับค่า cut-off ของชุดตรวจ Spec fPL ให้อยู่ที่ 8.8 μg/L จะเพิ่มความจำเพาะ (specificity) ได้เป็น 99%
3. Catalyst™ PL (IDEXX)
- Point-of-care test, quantitative
- ตรวจได้ที่คลินิก, ได้ค่าเป็นตัวเลขเหมือน Spec fPL
- สามารถตรวจได้ทั้งในสุนัขและแมวที่สงสัยภาวะตับอ่อนอักเสบ
- ยังขาดการศึกษา peer reviewed ขนาดใหญ่ที่ยืนยันประสิทธิภาพในทางคลินิก (มีเฉพาะ white paper ของทางบริษัท)
- ใน white paper กล่าวอ้างผลการศึกษาทึ่แสดงให้เห็นว่าการทดสอบของ Catalyst PL มีความสอดคล้องกับ Spec cPL และ Spec fPL มากกว่า 95%
- ใน White paper ยังพูดถึงการศึกษาเปรียบเทียบ Catalyst PL และ Spec cPL ต่อเอนไซม์ lipase จากตับอ่อนในสุนัขที่เป็น EPI (เป็นวิธีหนึ่งในการประเมินความจำเพาะ (specificity) ของการทดสอบเอนไซม์ lipase โดยวัดระดับ lipase ในกลุ่มสัตว์ที่คาดว่าจะมีความเข้มข้นของ lipase ต่ำมาก เช่น สุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด-GSDs ที่มีภาวะ EPI) พบว่า Catalyst PL และ Spec cPL ให้ผลลัพธ์ที่สอดคล้องกัน
4. Vcheck fPL (Bionote)
- Point-of-care analyzer-based test
- ตรวจได้ที่คลินิก, ได้ค่าเป็นตัวเลขเหมือน Spec fPL
- ยังไม่แน่ชัดว่าใช้ polyclonal or monoclonal antibodies
- ใช้แอนติบอดี้ที่มีความจำเพาะต่อ lipase จากตับอ่อนในรูปแบบ lateral flow immunoassay
- ผู้ผลิตระบุว่าการแตกของเม็ดเลือดแดงมีผลต่อการทดสอบแต่ไม่ถูกรบกวนจากภาวะดีซ่านและไขมันในเลือดสูง
- ยังขาดการศึกษา peer reviewed ขนาดใหญ่ในวารสารนานาชาติที่ยืนยันประสิทธิภาพในทางคลินิก (ยกเว้นการศึกษาเบื้องต้นที่เกาหลีใต้)
การศึกษาประสิทธิภาพของชุดตรวจ Vcheck fPL โดยเปรียบเทียบ IDEXX Spec fPL และการวินิจฉัยทางคลินิก (ดำเนินการโดย Referral Animal Hospital Small Animal Clinical Research ในประเทศเกาหลีใต้) พบว่า :
– ความไว (sensitivity) 90 -100%
– ความจำเพาะ (Specificity) 90- 100%
– แม้ว่าผลการศึกษานี้จะแสดงให้เห็นถึง sensitivity และ specificity ที่สูงมากของชุดตรวจ Vcheck fPL แต่การศึกษาดังกล่าวอ้างอิงกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก (แมวที่เป็นโรคตับอ่อนอักเสบและแมวที่ไม่เป็นโรคกลุ่มละ 5 ตัว)
ผลแล็บอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (Buckley et al., 2023)
การศึกษานึงของ Buckley et al., 2023 พบว่า การเพิ่มสูงขึ้นของ total bilirubin, ภาวะ hypocalcemia และการเพิ่มขึ้นของ Spec fPL สัมพันธ์กับระยะเวลาแอดมิทใน รพส ที่เพิ่มขึ้น
ลักษณะภาพอัลตราซาวด์ที่พบบ่อยในแมวตับอ่อนอักเสบ
การเปลี่ยนแปลงที่พบ:
- ตับอ่อนโตขึ้น (pancreatomegaly)
- เนื้อเยื่อตับอ่อนดำขึ้น (Hypoechoic pancreatic parenchyma)
- ไขมันรอบๆตับอ่อนขาวขึ้น (Hyperechoic changes in the surrounding fat)
- Pancreatic duct /bile duct ขยายใหญ่ขึ้น
- ถุงน้ำดีขยายใหญ่ขึ้น (Gallbladder enlargement)
- ลำไส้เล็กส่วนต้นอักเสบหนาตัวขึ้น (Duodenal thickening)
ประสิทธิภาพของการวินิจฉัยด้วยอัลตราซาวด์:
การวินิจฉัยตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันในแมวด้วยการทำอัลตราซาวด์มี sensitivity อยู่ที่ 11-67% ส่วนการวินิจฉัยตับอ่อนอักเสบเรื้อรังจากการทำอัลตราซาวด์ยังไม่เป็นที่ยอมรับ (Forman et al., 2021)
อีกการศึกษานึงพบว่าการวินิจฉัยตับอ่อนอักเสบด้วยการทำอัลตราซาวด์มี sensitivity อยู่ที่ 73% และมี specificity อยู่ที่ 24% – 67% (SchnauB et al., 2018)
การศึกษาล่าสุดพบว่าในแมวตับอ่อนอักเสบ หากผลอัตราซาวด์พบความผิดปกติของถุงน้ำดี (gall sludge, GB wall edema, biliary duct dilation) และความผิดปกติของกระเพาะอาหาร (gastric wall thickening) ร่วมด้วยจะทำให้ระยะเวลาที่แอทมิทในรพส. ยาวนานขึ้น (Buckley et al., 2023)
สรุป (Summary)
การวินิจฉัยโรคตับอ่อนอักเสบในแมวควรใช้หลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่:
1. ประวัติการเจ็บป่วย
2. อาการทางคลินิก
3. การตรวจวัดระดับ fPL
4. การทำอัลตราซาวด์ช่องท้อง
5. ผลตรวจทางพยาธิวิทยา
บทความโดย
น.สพ. วิทวัส ศิริเดชรัตนกุล
อ้างอิงข้อมูล
Forman, M. A., Robertson, J. E., Shiroma, J. T., Hostutler, R. A., Simpson, K. W., Estrin, M., Newman, S. J., Corn, S. C., Buch, J., & Armstrong, P. J. (2024). Measurement of feline-specific pancreatic lipase aids in the diagnosis of pancreatitis in cats. Journal of the American Veterinary Medical Association, 262(1), 42-52. Retrieved May 3, 2025, from https://doi.org/10.2460/javma.23.02.0105
Buckley C, Lee AM, Wills RW, Sullivant AM, Cridge H. Evaluation of Clinicopathological Data, the Specific Feline Pancreatic Lipase Assay, and Abdominal Ultrasound as Severity Determinants in Cats with Pancreatitis. Veterinary Sciences. 2023; 10(3):209. https://doi.org/10.3390/vetsci10030209
Wu, Y. A., Steiner, J. M., Huisinga, E., Beall, M. J., Buch, J., Fosgate, G. T., & Lidbury, J. A. (2023). Analytical validation of an ELISA for the measurement of feline pancreas‐specific lipase and re‐evaluation of the reference interval and decision threshold for diagnosing pancreatitis. Veterinary Clinical Pathology, 52(3), 482-492.
Lim, S. Y., Steiner, J. M., & Cridge, H. (2022). Understanding lipase assays in the diagnosis of pancreatitis in veterinary medicine. Journal of the American Veterinary Medical Association, 260(11), 1249-1258. Retrieved May 4, 2025, from https://doi.org/10.2460/javma.22.03.0144
Forman, Marnin A., et al. “ACVIM consensus statement on pancreatitis in cats.” Journal of veterinary internal medicine 35.2 (2021): 703-723.
Schnauß F, Hanisch F, Burgener IA. Diagnosis of feline pancreatitis with SNAP fPL and Spec fPL. Journal of Feline Medicine and Surgery. 2018;21(8):700-707. doi:10.1177/1098612X18796624
คำแนะนำจากทีมสัตวแพทย์ Vetprima
แมวหลายตัวที่เป็นตับอ่อนอักเสบมักมีอาการไม่จำเพาะ ทำให้การวินิจฉัยต้องอาศัยการประเมินร่วมกันทั้งจากผลเลือด อัลตราซาวด์ และ อาการทางคลินิกเป็นหลัก อย่าพึ่งพาผลใดผลหนึ่งเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นแบบเรื้อรังหรือมีโรคร่วม