การเปลี่ยนอาหารและความถี่ในการให้อาหาร

การเปลี่ยนอาหารและความถี่ในการให้อาหาร

เราไม่ควรเปลี่ยนอาหารในวันแรกเมื่อลูกสัตว์กำลังเปลี่ยนสภาพสิ่งแวดล้อมใหม่ การเปลี่ยนอาหารควรดำเนินการอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป ควรเริ่มอาหารใหม่ทีละน้อย โดยค่อยๆเพิ่มหนึ่งในสี่ (25%) ของปริมาณที่ให้กินในแต่ละวันเป็นระยะเวลา 1-3 วันและลดอาหารเดิมออกพร้อมกันทีละน้อย ซึ่งการปรับเปลี่ยนอาหารนี้จะช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายในทางเดินอาหารเช่นภาวะท้องเสียและช่วยเพิ่มการยอมรับอาหารใหม่ด้วย

 

การพูดคุยเรื่องการจัดการอาหารสำหรับสัตว์ระหว่างคนในครอบครัวถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะต้องทำความเข้าใจถึงความถี่ของการให้อาหารด้วย การให้อาหารแบบจำกัด (restricted feeding) สำหรับลูกสุนัขหลังหย่านม ควรกำหนดไว้ที่ 2-4 มื้อต่อวัน เพื่อช่วยรักษาสภาพร่างกายให้แข็งแรง และในสุนัขสายพันธุ์เล็ก (small, toy, หรือ teacup breeds) อาจจำเป็นต้องให้ถึง 3-4 มื้อต่อวันจนถึงอายุ 3 เดือนเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycemia)

 

การให้อาหารแบบมีให้ตลอดเวลา (free-choice feeding) เป็นวิธีที่แนะนำสำหรับลูกแมว ซึ่งสามารถให้ได้จนถึงอายุ 5 เดือน แล้วเมื่ออายุ 6 เดือนค่อยลดลงเหลือ 3-4 มื้อต่อวัน จนเมื่อโตเต็มวัยแล้วอาจลดการให้อาหารเหลือ 2 ครั้งต่อวัน นอกจากนี้ การให้อาหารที่มีไขมันสูง, การมีอาหารให้ตลอดเวลาและเลี้ยงภายในบ้าน (indoor living) จะไม่แนะนำให้กับสัตว์ที่ทำหมันแล้ว เนื่องจากวิธีดังกล่าวนี้จะส่งผลต่อการเกิดโรคอ้วน และการให้อาหารแมวแบบที่ให้กินเต็มที่ (ad libitum) แมวควรระวังภาวะน้ำหนักเกินฉะนั้นควรปรับปริมาณการให้อาหารตามความจำเป็นเพื่อรักษา body condition scores ให้สมส่วน

 

สัตวแพทย์สามารถให้คำแนะนำการให้อาหารแก่แมวทีละตัวดังที่กล่าวข้างต้นแก่เจ้าของที่เลี้ยงแมวหลายตัวได้ เพื่ออาจค่อยๆปรับวิธีการให้อาหาร ซึ่งต่อไปจะสามารถควบคุมปริมาณและประเภทของอาหารที่ให้กับสัตว์ได้มากขึ้น ระบบการให้อาหารรายตัวจะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกแมวไปกินอาหารสูตรสำหรับแมวโต อาหารบางอย่างสำหรับลูกแมวอาจมีกรดที่มากเกินไป อาจส่งผลต่อแร่ธาตุในกระดูกได้

 

บทสรุป

การจัดการทางด้านอาหารมีความสำคัญยิ่งต่อสุขภาพและอายุขัยของตัวสัตว์ รวมถึงช่วยป้องกันปัญหาทางด้านระบบโครงร่างในภายหลังได้ สัตวแพทย์ควรเน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้อาหารที่ถูกต้องทุกครั้ง โดยการให้ข้อมูลแก่เจ้าของในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์เลี้ยง

 

ที่มา https://todaysveterinarynurse.com/nutrition/puppy-and-kitten-nutrition/?fbclid=IwAR0dRCE3Dmc_9H1kihHIWopzNA6SpV7v3og43QZ5SCRnO4QGTQ8MckviiRM&mibextid=Zxz2cZ

วันที่โพส : 14 กันยายน 2566