Nutritional Management in illness and surgery patients
การจัดการทางโภชนาการที่ดีและถูกต้องถือว่ามีความสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้สัตว์ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Physiological change after surgery and illnesses
1. Metabolic changes (Hypometabolism vs Hypermetabolism)
กระบวนการเมแทบอลิซึมที่เกิดขึ้นหลังผ่าตัดหรือเจ็บป่วยสามารถแบ่งออกได้เป็นสองช่วง คือ ช่วงแรกจะเกิดขึ้นภายใน 24-48 ชั่วโมงเรียกว่า Hypo-metabolism phase ในช่วงนี้สัตว์ป่วยจะจัดสรรพลังงานที่มีน้อยลงให้กับอวัยวะที่สำคัญเป็นหลัก พร้อมกับลดกระบวนการเมแทบอลิซึมที่ไม่จำเป็นลง
ช่วงที่สองเรียกว่า Hyper-metabolism phase เป็นช่วงที่จะซ่อมแซมฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาเป็นปกติ
จะเห็นได้ว่าการส่งเสริมให้สัตว์ป่วยกลับมากินอาหารโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ได้รับพลังงานและสารอาหารเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย
2. Bacterial translocation
กระบวนการผ่าตัดและเจ็บป่วยมีการอักเสบ การติดเชื้อและการเปลี่ยนแปลงการทำงานของอวัยวะที่ส่งผลให้เซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร ขาดคุณสมบัติที่จะป้องกันไม่ให้แบคทีเรียในทางเดินอาหารเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองและกระแสเลือด ส่งผลให้เกิดภาวะการติดเชื้อในร่างกาย เรียกภาวะดังกล่าวว่า Bacterial translocationดังนั้นจึงควรให้สัตว์ป่วยหรือหลังผ่าตัดกลับมากินอาหารโดยเร็วที่สุด
3. Decreased appetite
ในสัตว์ป่วยมักเบื่ออาหารจากภาวะของโรค ส่งผลให้กินได้น้อยลง วิธีการแก้ไขที่ตรงจุดที่สุดคือการรักษาสาเหตุของโรค
และการทำสูตรอาหารที่มีความน่ากินสูงก็จะช่วยเพิ่มความอยากอาหารด้วย
Key Nutritional Factors in illness and surgery patients
(ปัจจัยทางโภชนาการที่เหมาะสมในช่วงพักฟื้นและหลังผ่าตัด)
1. ไขมันสูงและคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยได้ต่ำ
แหล่งพลังงานหลักของอาหารช่วงพักฟื้นจะเลือกใช้ไขมันเพราะมีความหนาแน่นของพลังงานสูงทำให้สัตว์ไม่ต้องกินอาหารในปริมาณมาก นอกจากนี้แหล่งไขมันที่มี Omega 3 ในรูปของ EPA และ DHA ยังช่วยลดการอักเสบและลดปวด
2. โปรตีนสูงและกรดอะมิโนเพียงพอ
อาหารที่มีโปรตีนสูงช่วยส่งเสริมให้ร่างกายมีโปรตีนเพียงพอ ที่จะไม่สลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อ
โดยกรดอะมิโนที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ป่วยพักฟื้นคืออาร์จินีน กลูตามีน และทอรีน
- อาร์จินีนเกี่ยวข้องกับการหายของแผล การรักษาสมดุลไนโตรเจน
- กลูตามีนถูกใช้เป็นแหล่งพลังงานหลักของเซลล์เยื่อบุลำไส้
- ทอรีนช่วยให้สัตว์มีสุขภาพดีและส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
3. ความน่ากินของอาหาร
เนื่องจากสัตว์ป่วยมีความอยากอาหารลดลงดังนั้นการส่งเสริมความน่ากินของอาหาร
ด้วยการใช้แหล่งวัตถุดิบจากเนื้อสัตว์คุณภาพสูงจะช่วยเพิ่มความน่ากินของอาหาร
4. อัตราการย่อยได้สูง
อาหารสัตว์ป่วยควรย่อยและดูดซึมได้ง่าย
เพราะสัตว์จะได้รับพลังงานและสารอาหารที่สามารถนำไปใช้ได้ในระยะพักฟื้น
โดยไม่ต้องเสียพลังงานไปกับกระบวนการขับของเสีย
การคำนวณปริมาณอาหาร
ปริมาณอาหารที่ให้มีความสำคัญต่อการป้องกัน Refeeding syndromeและเพื่อให้สัตว์ได้รับพลังงานเพียงพอต่อความต้องการ ในสัตว์พักฟื้นจะใช้ที่ 1 เท่าของ RER (Resting energy requirement)
เนื่องจากสัตว์ป่วยไม่มีกิจกรรม
- วันที่ 1: ให้อาหารเพียง 1/3 RER
- วันที่ 2: เพิ่มเป็น 2/3 RER
- วันที่ 3: ให้ที่ 1 RER
เพื่อป้องกัน Refeeding syndrome ซึ่งแนะนำให้อาหารวันละ 2 มื้อหรือมากกว่านั้น ตามขนาดของกระเพาะที่สามารถบรรจุอาหารได้
อ้างอิงข้อมูล
- Mazzaferro, E., 2015. Nutritional Support of the Critical Patient. 40th World Small Animal Veterinary Association World Congress. May 15-18, 2015, Bangkok, Thailand.
- Corbee, R.J., & Van Kerkhoven, W.J., 2014. Nutritional support of dogs and cats after surgery or illness. Open Journal of Veterinary Medicine: 4, 44-57.
- Hand, M.S., Thatcher, C.D., Remillard, R.L., Roudebush, P. & Novotny, B.J., 2011. Small Animal Clinical Nutrition. 5th Edition, Mark Morris Institute.
คำแนะนำจากทีมสัตวแพทย์ Vetprima
ช่วงพักฟื้นของสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะหลังการผ่าตัด เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องใช้พลังงานและสารอาหารจำนวนมากเพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อและฟื้นฟูความแข็งแรง สัตว์ป่วยจำนวนไม่น้อยในช่วงนี้มัก เบื่ออาหาร กินได้น้อย หรือ ย่อยอาหารได้ไม่เต็มที่ หากไม่ได้รับโภชนาการที่เพียงพอ อาจทำให้การฟื้นตัวช้าลง Vetprima Optimal ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อดูแลสัตว์ในช่วงเวลาสำคัญนี้
ผลิตภัณฑ์แนะนำ
อาหารสัตว์ระยะพักฟื้นและหลังผ่าตัด