Nutritional Management of Hyperlipidemia
ภาวะไขมันในเลือดสูง (hyperlipidemia) อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตและเกี่ยวข้องกับความผิดปกติและโรคในสุนัข เช่น ภาวะตับอ่อนอักเสบ อาการชัก นิ่วในถุงน้ำดี และความผิดปกติของเส้นประสาทส่วนปลาย (peripheral neuropathies) อุบัติการณ์ของภาวะไขมันในเลือดสูงจะเพิ่มขึ้นตามอายุในสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยง เช่น มิเนียเจอร์ชเนาเซอร์ และยอร์คเชียร์เทอร์เรีย
มีการพบความสัมพันธ์ระหว่างภาวะไขมันในเลือดสูงกับการเกิดโรคตับอ่อนอักเสบในมนุษย์ และพบความสัมพันธ์คล้ายกันในสุนัข การศึกษาก่อนหน้านี้พบความเชื่อมโยงระหว่างสุนัขที่มีภาวะ hypertriglyceridemia (serum triglycerides > 800 mg/dL) กับการเพิ่มขึ้นของค่า canine pancreatic lipase immunoreactivity
นอกจากนี้ สุนัขที่มีความผิดปกติการเผาผลาญไขมันตั้งแต่กำเนิด (inborn error in lipid metabolism) หรือมีโรคของระบบต่อมไร้ท่อ เช่น เบาหวาน hyperthyroidism หรือ hyperadrenocorticism อาจทำให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูงได้
Overview of Lipid Metabolism
โดยปกติเอนไซม์ lipase จากตับอ่อนจะถูกหลั่งเข้าสู่ลำไส้เล็กส่วนต้น เพื่อย่อยไตรกลีเซอไรด์ในอาหารให้เป็นกรดไขมันและกลีเซอรอล
กรดไขมันเหล่านี้จะถูก emulsified กับเกลือน้ำดี (bile salts) และถูกดูดเข้าสู่ enterocytes เพื่อเปลี่ยนเป็น chylomicrons ก่อนส่งไปยังตับเพื่อเข้าสู่กระบวนการเมตาบอลิซึม
จากนั้นจะรวมตัวกับโปรตีนและไขมันอื่นๆ กลายเป็น very low-density lipoproteins (VLDL)
- Chylomicrons มาจากไขมันในอาหาร อยู่ในกระแสเลือดได้นาน 2–12 ชั่วโมง
- หลังเปลี่ยนเป็น VLDL จะทำหน้าที่ขนส่งคอเลสเตอรอล กรดไขมัน และวิตามินที่ละลายได้ในไขมัน
- กรดไขมันจะแยกออกจาก VLDL โดย lipoprotein lipase (LPL) ทำให้ VLDL เปลี่ยนเป็น LDL
- คอเลสเตอรอลจะจับกับ LDL แล้วเปลี่ยนเป็น HDL และถูกลำเลียงกลับไปยังตับ
สุนัขและแมวไม่มีเอนไซม์เปลี่ยนคอเลสเตอรอลกลับเป็น LDL (ต่างจากมนุษย์) ทำให้คอเลสเตอรอลส่วนใหญ่ในร่างกายอยู่ในรูป HDL
ร่างกายสร้าง LPL เพิ่มขึ้นโดยอาศัยอินซูลิน การทำงานของ LPL ถูกกระตุ้นโดยฮอร์โมนไทรอยด์ และถูกยับยั้งโดย glucocorticoids
Primary Disorders of Lipid Metabolism
ภาวะพร่องการทำงานของ LPL พบได้ในแมวที่เป็น primary hyperchylomicronemia และการทำงานของ LPL ที่ลดลงในสุนัขพันธุ์ miniature schnauzers เชื่อว่าสัมพันธ์กับภาวะ idiopathic hypertriglyceridemia
จากการศึกษา
มีการศึกษาหนึ่งพบว่า ประมาณ 32% ของสุนัขพันธุ์ miniature schnauzers ที่ไม่แสดงอาการของโรคตับอ่อนอักเสบมีระดับของไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงมากกว่า 800 mg/dL ระดับความรุนแรงของภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือด เพิ่มสูงขึ้นตามอายุและประมาณ 75% ของสุนัขพันธุ์ miniature schnauzers ที่มีอายุมากกว่า 9 ปีขึ้นไปพบภาวะไขมันในเลือดสูง (hyperlipidemia)
อีกการศึกษาพบว่าสุนัขพันธุ์ miniature schnauzers ที่มีภาวะ severe hypertriglyceridemia มีความเสี่ยงที่จะพบการเพิ่มขึ้นของ pancreatic lipase immunoreactivity levels (> 200 mg/dL) มากกว่าสุนัขที่มีระดับไตรกลีเซอไรด์ปกติถึง 4.5 เท่า
ภาวะ hypercholesterolemia (without hypertriglyceridemia) มีรายงานในสุนัขพันธุ์ Shetland sheepdogs, rough-coated collies, Briards และ West Highland white terriers ซึ่งเชื่อว่าสัมพันธ์กับการลดลงของการ clearance HDL โดยตับ
Secondary Disorders of Lipid Metabolism
- Hyperthyroidism → clearance ของ VLDL โดย peripheral tissues ลดลง และ clearance LDL โดยตับลดลง
- Diabetes Mellitus → ขาดอินซูลิน ทำให้ LPL ลดลง และลดการกระตุ้น hormone-sensitive lipase (HSL) ส่งผลให้กรดไขมันในเลือดเพิ่ม
- Hyperadrenocorticism → เพิ่ม HSL activity และลด LPL activity
การวินิจฉัยภาวะ Hyperlipidemia
การวินิจฉัยภาวะ hyperlipidemia อาศัยอาการทางคลินิกและค่าทางชีวเคมี อาการทางคลินิกอาจแตกต่างกันไปในสัตว์ป่วยแต่ละราย ในสุนัขพันธุ์ Miniature schnauzers ที่เป็น idiopathic hyperlipidemia อาจพบค่า fasting serum triglyceride สูงขึ้นมากกว่า 1000 mg/dL) โดยอาจมีหรือไม่มีภาวะhypercholesterolemia หรือค่าเอนไซม์ตับสูงเพิ่มขึ้นร่วมด้วย
สุนัขที่ตรวจพบ hyperlipidemia อาจแสดงอาการอาเจียนหรือรู้สึกไม่สบายท้อง แม้ว่าสุนัขที่ตรวจพบhyperlipidemia ส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการทางคลินิก ในแมวที่มีภาวะ hyperchylomicronemia อาจพบผิวหนังผิดปกติที่เรียกว่า cutaneous xanthomas ในสุนัขที่พบ hypertriglyceridemia อาจพบอาการอาเจียน ปวดท้อง อาการชัก
การกินอาหารที่มีไขมันสามารถเพิ่มระดับ cholesterol และ triglyceride ในเลือดได้นานถึง 12 ชั่วโมงตัวอย่างซีรั่มที่มีระดับ triglycerides สูงมากกว่า 300 mg/dL มักพบการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าเรียกว่า serum lactescence (milkiness)
แนวทางการรักษาด้วยโภชนาการ
Therapeutic Approaches
- รักษาโรคที่เป็นสาเหตุของ Hyperlipidemia
- ใน hyperchylomicronemia ควรจำกัดไขมัน ≤ 24 กรัม/1000 กิโลแคลอรี
- ลดไขมันในอาหารอย่างน้อย 50%
- ใช้อาหารสูตรไขมันต่ำ (low-fat diet) หรืออาหาร home-made ultra-low-fat (ต้องปรึกษานักโภชนาการสัตวแพทย์)
Dietary Supplements
Fiber (ใยอาหาร)
- ลดการดูดซึมไขมันและลดไขมันในเลือด
- Guar gum (ใยอาหารละลายน้ำ) ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้
Fish Oils
- มีกรดไขมัน Omega-3 ลด VLDL ในคนและสุนัข
- กลไก: ลดการสร้าง triglycerides จากตับ เพิ่ม LPL activity และเพิ่ม beta-oxidation ของไขมัน
Niacin
- ขนาดสูงช่วยลดการสร้าง VLDL จากตับ และลด HSL activity
- ใช้ในคน แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนในสุนัขและแมว
สรุป
ภาวะไขมันในเลือดสูงในสัตว์เลี้ยงอาจไม่แสดงอาการ แต่สามารถนำไปสู่โรคแทรกซ้อนร้ายแรงได้ การวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่น ๆ และการจัดการด้วยโภชนาการ เช่น อาหารไขมันต่ำ และอาหารเสริมที่เหมาะสม จะช่วยป้องกันและควบคุมภาวะนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลิตภัณฑ์แนะนำจาก Vetprima
หากคุณเป็นสัตวแพทย์ที่กำลังมองหาอาหารสำหรับสัตว์ที่มีภาวะไขมันสูง เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์อาหารสูตรเฉพาะจาก Vetprima ซึ่งพัฒนาโดยทีมสัตวแพทย์ และออกแบบมาเพื่อการควบคุมระดับไขมันในสัตว์เลี้ยงอย่างมีประสิทธิภาพ